INFORMATION

 

โรคสโตรก หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น การเข้าใจถึงอาการ สาเหตุ และวิธีการดูแลผู้ป่วยโรคสโตรก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักและให้ความสนใจ

อาการของโรคสโตรก

อาการของโรคสโตรกมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และสามารถสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้:

  1. ใบหน้าเบี้ยว: กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้ยิ้มไม่เต็มปาก
  2. แขนขาอ่อนแรง: ไม่สามารถยกแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งได้
  3. พูดไม่ชัด: พูดลิ้นแข็ง พูดไม่รู้เรื่อง หรือพูดไม่ได้
  4. ตามัว: มองเห็นภาพซ้อน หรือสูญเสียการมองเห็นในตาข้างใดข้างหนึ่ง
  5. ปวดศีรษะรุนแรงอย่างฉับพลัน
  6. เวียนศีรษะ มึนงง หรือเสียการทรงตัว

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน เพราะการรักษาที่รวดเร็วสามารถช่วยลดความเสียหายต่อสมองและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้

สาเหตุของโรคสโตรก

โรคสโตรกเกิดจากการที่เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้:

  1. หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke): เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง ทำให้เนื้อสมองขาดเลือด
  2. หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke): เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้มีเลือดออกในเนื้อสมอง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคสโตรก ได้แก่:

  • ความดันโลหิตสูง
  • โรคเบาหวาน
  • ไขมันในเลือดสูง
  • โรคหัวใจ
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  • ภาวะอ้วน
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ความเครียด

การดูแลผู้ป่วยโรคสโตรก

การดูแลผู้ป่วยโรคสโตรกเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจ โดยมีแนวทางดังนี้:

  1. การฟื้นฟูสมรรถภาพ: ผู้ป่วยควรได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องโดยทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และนักอรรถบำบัด
  2. การดูแลที่บ้าน: ปรับสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เช่น ติดราวจับ กำจัดสิ่งกีดขวาง และจัดวางของใช้ให้หยิบง่าย
  3. การให้กำลังใจ: สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ
  4. การทำกิจวัตรประจำวัน: ส่งเสริมให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อฝึกการใช้กล้ามเนื้อและสมอง
  5. การพักผ่อน: จัดสรรเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดความเหนื่อยล้าและความเครียด

โภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคสโตรก

อาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคสโตรก ควรมีลักษณะดังนี้:

  1. ลดการบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อควบคุมความดันโลหิต
  2. เพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ที่มีใยอาหารสูง
  3. เลือกบริโภคไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก ปลาทะเล และถั่ว
  4. ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
  5. ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีภาวะเบาหวานร่วมด้วย
  6. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

การกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคสโตรก

การกายภาพบำบัดมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยโรคสโตรก โดยมีเป้าหมายดังนี้:

  1. ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการทรงตัว
  2. เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  3. ลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง
  4. ฝึกการทำกิจวัตรประจำวัน
  5. ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ ข้อติด

การกายภาพบำบัดควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยอาจเริ่มจากการทำท่างอกล้ามเนื้อ การฝึกนั่ง ยืน และเดิน ไปจนถึงการฝึกทักษะที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความก้าวหน้าของผู้ป่วยแต่ละราย

สถิติผู้ป่วยโรคสโตรกในประเทศไทย

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปี พ.ศ. 2563 พบว่า:

  • มีผู้ป่วยโรคสโตรกรายใหม่ประมาณ 250,000 รายต่อปี
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคสโตรกอยู่ที่ประมาณ 50,000 รายต่อปี
  • ผู้ป่วยโรคสโตรกมีแนวโน้มอายุน้อยลง โดยพบว่ามีผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 45 ปี เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10-15

ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า โรคสโตรกไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย

การป้องกันโรคสโตรก

การป้องกันโรคสโตรกสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิต ดังนี้:

  1. ควบคุมความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด และระดับไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ และธัญพืช
  4. ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  5. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  6. จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม
  7. ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ

บทสรุป

โรคสโตรกเป็นภัยคุกคามทางสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุ การเข้าใจถึงอาการ สาเหตุ และวิธีการป้องกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ นอกจากนี้ การดูแลผู้ป่วยโรคสโตรกอย่างถูกวิธี ทั้งในด้านโภชนาการและการกายภาพบำบัด จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ การตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันและการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสโตรกและส่งเสริมให้เรามีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

หากท่านต้องการคำปรึกษา หรือบริการการดูแลผู้สูงอายุ สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุศิริอรุณแคร์ โทรศัพท์ 02-227-0554



สอบถามข้อมูล